เครื่องประดับเงินมีมากมายหลายชนิด

แต่ละชนิดนั้นก็มีคุณสมบัติราคาที่แตกต่างกัน แต่มีจุดประสงค์เดียวกันนั่นคือการสร้างความโดดเด่นให้กับชุดที่สวมใส่ และยังบ่งบอกถึงรสนิยมของผู้สวมใส่ได้ด้วย และเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันนั่นคือ เครื่องประดับเงิน มีให้เลือกหลายรูปแบบทั้งสร้อย แหวน กำไลข้อมือต่างๆ แน่นอนเครื่องประดับเงินนั้นมีทั้งของแท้และของปลอม แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า เครื่องประดับที่เรามีนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม วันนี้เราจึงมีวิธีพิสูจน์มาฝาก
เริ่มจากการใช้แม่เหล็ก ก็แน่ล่ะแม่เหล็กนั้นมีแรงดึงดูดโดยถ้าหากเป็นของแท้ เช่น เงิน ทองคำขาว พาลาเดียม ทองแดง หรือว่าทองเหลืองก็สามารถใช้ได้ ถ้าเครื่องประดับเหล่านี้เป็นของแท้จะดูดไม่ติดนั่นเอง เพราะว่าถ้าของแท้จะเป็นแร่ของเครื่องประดับนั้นมากกว่า 90 % แต่ถ้าไม่ใช่จะมีวัสดุอื่นๆที่ทำปฏิกิริยากับเหล็กผสมอยู่ด้วยนั่นเอง นอกจากใช้เหล็กในการตรวจแล้ว การวัดด้วยวิธีธรรมชาติก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้เรารู้ว่าเครื่องประดับเงินของเราเป็นของแท้หรือไม่นั่นคือ

หากเป็นเครื่องประดับเงินแท้นั้นเมื่อใส่และสัมผัสอากาศไปนานๆก็อาจดำได้

ซึ่งเป็นธรรมชาติอยู่แล้วแต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการขัดด้วยครีมขัดโลหะก็หายดำได้และนอกจากนี้ถ้าเป็นเงินแท้หรือเงินเปอร์เซ็นต์สูงจะแตกบิ่นง่าย โดยสามารถบิดได้ด้วยมือเลย แต่ว่าถ้าเป็นเงิน 925 จะมีความแข็งหน่อยเนื่องจากการขึ้นรูปนั่นเอง อาจทำให้บิดได้ยาก และต่อมาเป็นวิธีทำลายเครื่องประดับ อ่านแล้วงงหรือเปล่า ความจริงมันไม่ขนาดนั้นหรอก แค่ใช้ตะไบทำให้เป็นรอยลึก เพื่อดูข้างในเครื่องประดับว่าเป็นสีอะไร ถ้าข้างในเป็นเงินแท้ก็จะมีสีขาว แต่ถ้าลองตะไบแล้วข้างในเป็นสีอื่นก็ต้องสันนิษฐานว่าเป็นงานชุบ เป็นต้น และนอกจากนี้ยังมีการสังเกตจากราคาด้วย

เพราะว่าของปลอมมักราคาถูกกว่า ซึ่งอาจมีขายตามตลาดนัดก็ได้ อย่างเช่น เครื่องประดับเงินชุบโรเดียม เป็นต้น

ซึงเมื่อใช้ไปนานๆ เครื่องประดับก็จะหมองลง ต้องคอยนำไปชุบใหม่อยู่เรื่อยๆ ไม่เหมือนเครื่องประดับเงินแท้ที่สามารถทำความสะอาดนิดหน่อยก็ยังคงมีความเงางาม แวววาวเหมือนเดิม และยังมีวิธีสังเกตอีกอย่างหนึ่งสังเกตทีตราประทับก็ได้ อย่างเช่น ตราประทับ 925 ก็จะใช้กับแหวนบางวงหรือแหวนแบบเก่าๆ แต่ก็ค่อนข้างดูยากอีกแหละเพราะว่าบางทีของแท้ก็ไม่ปั๊มตรา ของปลอมกลับปั๊มก็มี เพราะฉะนั้นบางครั้งดูด้วยตาเปล่าก็พิสูจน์ไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นต้องทำอย่างวิธีต่างๆที่กล่าวมาจะดีกว่า เพื่อให้ได้ของดีมีคุณภาพนั่นเอง อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อเครื่องประดับนั้น ไม่ใช่แค่ต้องดูเรื่องของแท้หรือไม่แท้อย่างเดียว ต้องดูด้วยว่าเราจะใช้เครื่องประดับนั้นในโอกาสอะไรบ้าง จะได้เลือกรูปแบบให้ถูกต้องกับงานที่จะไป รสนิยมของผู้สวมใส่ เครื่องแต่งกายที่จะใส่ด้วย เพื่อช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับคุณได้ เพราะฉะนั้นการเลือกเครื่องประดับเงินให้เข้ากับงานและสถานการณ์เป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด
และทั้งหมดนี้คือการทดสอบ เครื่องประดับเงิน ให้รู้ว่าของแท้หรือของเทียม จะได้ไม่โดนหลอกหรือย้อมแมวขายให้เสียอามรณ์เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยทีเดียวที่ต้องเรียนรู้วิธีการทดสอบเอาไว้ และต้องหมั่นคอยตรวจสอบอยู่เสมอด้วยเวลาที่ได้เครื่องประดับชิ้นใหม่ๆมาจะได้เป็นการฝึกฝนการตรวจสอบให้ชำนาญมากขึ้นและต้องยายามศึกษาวิธีการตรวจสอบใหม่ๆอยู่เสมอเพราะว่ากลการโกงก็เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลาจึงต้องพยายามศึกษาให้รอบด้านมากที่สุดนั่นเอง